เมนู

โลกเสียได้ ดูก่อนท่านพระสารีบุตร สติปัฏฐาน 4 เหล่านี้ อันภิกษุผู้เป็น
อเสขะพึงเข้าถึงอยู่.
จบทุติยกัณฏกีสูตรที่ 5

6. ตติยกัณฏกีสูตร



การบรรลุภาวะแห่งมหาอภิญญา



[1276] สาเกตนิทาน. ครั้นแล้ว ท่านพระสารีบุตรได้ถามท่าน
พระอนุรุทธะว่า ท่านอนุรุทธะบรรลุภาวะแห่งมหาอภิญญา เพราะได้เจริญ
ได้กระทำให้มากซึ่งธรรมเหล่าไหน.
[1277] ท่านพระอนุรุทธะตอบว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ผมบรรลุ
ภาวะแห่งมหาอภิญญา เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐาน 4
สติปัฎฐาน 4 เป็นไฉน ผมย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ ... ย่อมพิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ ... ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ... ย่อมพิจารณา
เห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและ
โทมนัสในโลกเสียได้ ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ผมบรรลุภาวะแห่งมหาอภิญญา
เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐาน 4 เหล่านี้แล อนึ่ง เพราะ
ได้เจริญ ได้กระทำให้มากซึ่งสติปัฎฐาน 4 เหล่านี้ ผมจึงรู้โลกพันหนึ่ง.
จบตติยกัณฏกีสูตรที่ 6

7. ตัณหักขยสูตร



เจริญสติปัฏฐานเพื่อความสิ้นตัณหา



[1278] สาวัตถีนิทาน. ณ ที่นั้น แล ท่านพระอนุรุทธะเรียกภิกษุ
ทั้งหลายมาแล้วได้กล่าวว่า ดูก่อนผู้มีอายุทั้งหลาย สติปัฏฐาน 4 เหล่านี้ อัน
บุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นตัณหา สติ
ปัฏฐาน 4 เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่...
ย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ . . . ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่. . .
ย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด
อภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย สติปัฏฐาน 4
เหล่านี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้น
ตัณหา.
จบตัณหักขยสูตรที่ 7

อรรถกถาปฐมกัณฏกีสูตรที่ 4 เป็นต้น



ปฐมกัณฏกีสูตรที่ 4.

คำว่า ณ กัณฏกีวัน คือในป่าขนุนใหญ่.
ตติยกัณฏกีสูตรที่ 6. ท่านแสดงธรรมเป็นเครื่องอยู่เป็นนิตย์ ของ
พระเถระด้วยคำว่า โลกพันหนึ่ง นี้. จริงอยู่ พระเถระล้างหน้าแต่เช้าตรู่แล้ว
ก็มาระลึกถึงพันกัปในอดีตและอนาคต. แต่ในปัจจุบัน มาสู่คลองแห่งการคำนึง
หนึ่งมีจำนวนหนึ่งหมื่นจักรวาล. ตัณหักขยสูตรที่ 7 เนื้อความตื้นทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาปฐมกัณฏกีสูตรที่ 4 เป็นต้น